วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2558

เรียนรู้พื้นฐานของการเข้าตีพ จุด Vp & เส้น HL และมุมมองต่างๆ (การวาดภาพแบบ perspective)


สวัสดีครับเจอกันอีกแล้วผม Rango คนเดิมวันนี้จะมาให้ความรู้เรื่องการวาดภาพเข้าตีพ หรือ ที่เรารู้จักในชื่อ การวาดภาพแบบ Perspective จะเป็นอย่างไรไปดูกันครับ

Perspective คืออะไร

     
    Perspective ก็คือการเขียนภาพทัศนียภาพ เป็นภาพที่ให้ความรู้สึกเป็น 3 มิติ คือ มีลักษณะของความเหมือนใกล้เคียงกับภาพที่คนเราเห็นภาพต่าง ๆ โดยทั่วไป เช่น ถ้าไปยืนอยู่กลางถนน แล้วมองไปไกลข้างหน้า เราจะเห็นถนนจะค่อยเล็กลง เสาไฟฟ้าก็สั้นเล็กลง ถ้ามีต้นไม้เป็นทิวข้างทางก็จะ เตี้ยลง แล้วก็จะวิ่งไปรวมกันที่จุดสุดสายตา หรือถ้าใครอยู่ใกล้เส้นทางรถไฟก็จะเห็นได้ชัดเจน รางรถไฟจะไปรวมกันที่จุดจุดเดียว ไม้หมอนที่นอนขวางรับรางเหล็กก็จะสั้นเข้า และรวมกันที่ จุดรวมสายตา
   

รุปลักษณะของภาพ PERSPECTIVE

1. วัตถุ หรือสิ่งของที่มีขนาดเท่ากันเมื่อยู่ไกลตัวออกไปจะมีขนาดเล็กลง

2. ระยะที่เท่ากันเมื่ออยู่ไกลตัวออกไปจะมีระยะที่ถี่ขึ้นเรื่อย ๆ จนรวมเป็นจุดเดียวกัน

3. เส้น หรือสิ่งของที่คู่ขนานกันเมื่อไกลออกไปจะพุ่งเข้าหากัน



4. วัตถุ หรือสิ่งของต่าง ๆ เมื่ออยู่ไกลตัวออกไป จะมีรายละเอียดและความชัดเจนลดลงไปตามลำดับ



(ภาพ 1 จะเห็นว่ารางรถ เสาไฟ มีขนาดเล็กลงเมื่ออยู่ไกลตาออกไป)


(ภาพ 2 การเขียนภาพแบบมี จุด VP. 1จุดอยู่ตรงกลางของภาพ)

    -Horizon line [ HL. ] = เส้นระดับสายตา .
   -Vanishing point [ VP. ] = จุดรวมสายตา 


(ภาพ 3 เป็นการเขียนภาพที่มีจุด vp อยู่ทางซ้ายของภาพ)


หลักการเขียนภาพ PERSPECTIVE



หลักการพื้นฐานของภาพ PERSPECTIVE จะประกอบด้วย องค์ประกอบหลัก 2 ส่วนที่สำคัญ ที่กำหนดในการลากเส้น คือ

1).เส้นระดับสายตา หรือที่เรียกว่า Horizon Line ใช้ตัวย่อ HL เป็นเส้นระดับแนวนอน หรือแนวระดับน้ำ จะขึ้น-ลง สูง-ต่ำ อยู่ในระดับสายตา ซึ่งจะเป็นเส้นที่สำคัญในการกำหนดของการมองวัตถุหรือ สิ่งก่อสร้างทั้งหมด
2).จุดรวมสายตาหรือเรียกว่า Vanishing point ใช้ตัวย่อ VP จะเป็นจุดรวมสายตาที่อยู่ในเส้นระดับสายตาเป็นตำแหน่งที่ลากเส้นสิ่งของต่างๆไปรวมกันมีตั้งแต่1 จุดขึ้นไป 
แล้วแต่ตำแหน่งของวัตถุที่จัดวาง หรือ ต้องการวาดให้มีความหลากหลายซับซ้อน



(ภาพ 4 ภาพ PERSPECTIVE ที่มีจุดรวมสายตา 1 จุด)


(ภาพ 5 ภาพ PERSPECTIVE ที่มีจุดรวมสายตา 2 จุด)


(ภาพ 6 ภาพ PERSPECTIVE ที่มีจุดรวมสายตา 3 จุด อยู่ในลักษณะของการมองจากล่างขึ้นบน)


(ภาพ 7 ภาพPERSPECTIVE ที่มีจุดรวมสายตา 3 จุด อยู่ในลักษณะของการมองจากบนลงล่าง)


ภาพ PERSPECTIVE ที่มีจุดรวมสายตา 3 จุด จะให้ความรู้สึกของสิ่งก่อสร้าง สูงชะรูด หรือ ต่ำลึก ลงไป ใช้กับงานเขียนภาพในงานออกแบบทางสถาปัตยกรรมเป็นส่วนใหญ่ จุดรวมสายตาที่ 3 ตำแหน่งจะอยู่ในแกนของแนวดิ่ง จะต่ำ หรือ สูงกว่าเส้นระดับสายตาก็ได้

ทุกคน คงเข้าใจแล้วว่า Perspective หลักๆประกอบด้วยอะไรบ้าง แล้วมีหลักการหลักๆในการวาดอย่างไร

เรามาดูกันดีกว่าว่าการเข้าตีพสามารถวาดอะไรได้บ้าง








นอกจากนี้ยังมีคลิปให้ทุกคนได้ดูว่าจริงๆแล้วการวาดตีพนั้นวาดอย่างไร

คลิปสอนการวาดตีพ (Perspective)



หลังจากนั้นเราก็มาลุยแบบฝึกหัดกันเลย

แบบฝึกเสริมสร้างพัฒนาฝีมือ
(จะเป็นการลอกตีพ)







เป็นไงกันบ้างครับ ถึงแม้มันจะดูยากสักหน่อยในการจะเริ่มต้นวาด แต่เมื่อคุณวาดบ่อยๆ ซำ้ไปซำ้มา คุณจะจัดองค์ประกอบของภาพ และวาดได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น นอกจากนี้คุณสามารถหาตีพรูปอื่นๆ มาฝึกวาดได้เช่นเดียวกันเพื่อเป็นการฝึกตนเอง เพราะปัจจุบันตามแหล่งตามสื่อต่างๆก็มีมาก ดังนั้นคุณลองหาโจทย์ตีพสัก โจทย์สองโจทย์มาลองฝึกฝนทำดูบ่อยๆ รับลองตอนคุณเข้าไปเรียน หรือตอนสอบเข้ามหาลัยคุณจะไม่พลาดแน่ไม่ว่าคุณจะเจอโจทย์แบบไหนก็ตาม

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาร่วมชม Blog ของเรา วันนี้ก็ขอลาไปก่อน

ขอขอบคุณเว็บไซต์ แหล่งความรู้ ที่มา และ บล๊อคที่ร่วมรายการ http://perbasic.blogspot.com/
https://www.youtube.com/watch?v=Gb0-o2mWJhE





เส้นสถาปัตย์ คืออะไร (ทำความเข้าใจเรื่องการวาดเส้น/น้ำหนักเส้น)


สวัสดีครับผม มีชื่อว่า Rango ซึ่งจะมาให้ความรู้เรื่องการวาดเส้น(สถาปัตย์)แก่ทุกท่านที่สนใจและเข้ามาชม Blog ของเรา จะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ก็เชิญชมกันก่อนได้ครับผม



ทำความเข้าใจเส้นสถาปัตย์ 

เส้นสถาปัตย์ คือ จะเป็นการวาดที่ไม่ซ้ำกันมาก คือมีจุดเริ่มและจุดสิ้นสุดที่แน่นอน เส้นก็ต้องมั่งคงพอสมควร เน้นอาคาร บรรยากาศรอบๆ (ทัศนียภาพ) วาดจากหลักความจริง เน้นน้ำหนักเส้นบางจุดเพื่อให้เกิดมิติในตัวของภาพที่วาด


เส้นสถาปัตย์แตกต่างจากการวาดเส้นทั่วไป(Drawing) กับเส้นสถาปัตย์

       การวาดเส้นแบบสถาปัตย์ นั้นจะให้ความสำคัญเกี่ยวกับเส้นเป็นอย่างมาก เน้นการจัดวางทัศนยภาพ บรรยากาศ รวมทั้งองค์ประกอบรอบๆโดยรวม โดยเรื่องแสงเงาเวลาวาดจะใช้เส้นทั้งหมด จะไม่มีระบายลงไปในภาพ
       การวาดเส้นทั่วไป(Drawing) วิชาพื้นฐานเบื้องต้นของศิลปกรรมตลอดจนถึงงานออกแบบทุกชนิดก็คือการวาดเขียนหรือวาดเส้นซึ่งผู้สร้างงานจะต้องบันทึกทั้งความรู้สึก จินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ออกมาในลักษณะของงานวาดเส้น ให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ในการสร้างสรรค์งานวัสดุที่เลือกใช้ในการบันทึกเรื่องราวก็ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของงานแต่ละงาน ตามความมุ่งหวังและความถนัดของผู้สร้าง อย่างเช่น เทคนิคดินสอดำบนกระดาษ, เครยองบนกระดาษ, ชาโคล,ปากกา หรือแม้กระทั่งการขูดขีดบนผนังถํ้า นอกจากนี้การวาดภาพจะเกิดการระบาย แลเงา จะปะปนกันไปแต่จะไม่เน้นที่น้ำหนักเส้นเหมือนกับเส้นสถาปัตย์


ตัวอย่าง

จากภาพเราจะเห็นทรงกระบอก 2 อัน
ด้านซ้ายมือเป็นการวาดแบบDrawing ด้านขวามือจะเป็นการวาดเส้นแบบสถาปัตย์

สังเกตุจากภาพ Drawing จะมีการระบายและเน้นน้ำหนักที่เส้นมากจะเน้นที่แสงและเงา
เส้นสถาปัตย์จะเน้นที่เส้นความคมชัด หนักเบาหนัก ของน้ำหนักเส้นและจะใช้วิธีการวาดเส้นแทนการระบายบนภาพ

แบบฝึกหัดลองทำดู

"ทุกอย่างจะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อเราเก่งและมีความสามารถ แต่เราจะเก่งได้นั้นก็ต้องหมั่นฝึกฝนทบทวน และพึงปฏิบัติ"

ตีกรอบสร้างช่องขนาด 7x7 cm เพื่อให้มีขอบเขตในการวาดเส้น



หลังจากนั้นก็ลองวาดเส้นตามในภาพดู ตอนเริ่มวาดเส้นก็เน้นที่น้ำหนักเข้มมากที่สุดและไล่ไปจนอ่อนลง จนพอถึงช่วงกลางเส้นก็เริ่มเพิ่มน้ำหนักเข้มขึ้นเรื่อยๆจนเข้มมากที่สุดเท่ากับตอนแรก เรียกน้ำหนักนี้ว่า หนัก-เบา-หนัก และก็ลองวาดหลายๆแนวตามแบบ เช่น แนวตั้ง แนวนอน เฉียงด้านซ้าย เฉียงด้านขวา วาดเส้นในกรอบของเรา 



จะได้แบบนี้เมื่อวาดเสร๊จ ฝึกแบบละ 5 ช่องก็ได้

และนอกจากนี้เรายังสามารถเพิ่มขอบเขตในการวาดเส้นได้อีกเพื่อพัฒนาทักษะให้ชำนาญมากยิ่งขึ้น




ถ้าหากเราชำนาญแล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นเส้น หนัก-เบา-หนัก อย่างเดียวก็ได้


 คุณอาจจะวาดเป็น เบา-หนัก-เบา หรือ ไล่เป็น 7 ระดับของความเข้มเลยก็ได้ เพราะสามารถนำมาเป็นระดับแสงและเงาของวัตถุได้ด้วยในการวาดภาพ







เสร็จแล้ว ที่เหลือก็จะเป็นเรื่องของ Obric & Isometic
การทำเส้นมาวาดเป็นกล่องเพื่อขึ้นรูปเป็นรูปทรงเลขาคณิตต่างๆ
และก็นำแสงและเงาของเส้น 7 ระดับมาใช้


ไม่ยากใช่มั้ยครับ อย่างน้อยๆผมเชื่อว่า เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆก็พอที่จะได้ความรู้พื้นฐานนี้ไปไม่มากก็น้อย ที่เหลือก็คือการฝึกพัฒนาฝีมือตามศักายภาพ ความถนัด และเวลาของแต่ละคน
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม Blog ของเรา